ไอซ์แลนด์กลายมาเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้นายจ้างจ่ายค่าแรงให้ผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชาย จากที่มีการฉลองวันสตรีสากล (International Women’s Day) ทำให้หลายบริษัทต้องมาพิจารณาค่าแรงที่จ่ายให้แก่พนักงาน โดยทบทวนเรื่องเพศ อายุ และเชื้อชาติ
เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศไอซ์แลนด์เพิ่งจะถูกจัดให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกด้วยเรื่องการให้ความเท่าเทียมกันในแต่ละเพศ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่กระจ่างมากนัก เนื่องจากในความเป็นจริงผู้หญิงยังคงได้รับค่าแรงน้อยกว่าผู้ชายคิดเป็น 14-18%
กลุ่มสตรีกลุ่มหนึ่งได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยแสดงการคำนวณให้เห็นว่า หลังจากเวลา 2.38 p.m. หรือหลังประมาณบ่ายสองครึ่งในแต่ละวัน ผู้หญิงเหมือนทำงานฟรี เนื่องจากความแตกต่างเรื่องเพศ นี่เป็นผลว่าในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 ผู้หญิงกว่าพันคนในประเทศไอซ์แลนด์ประท้วงออกจากงานเมื่อถึงเวลา 2.38 p.m. และตั้งขบวนต่อต้านการจ่ายค่าแรงที่ไม่เท่าเทียมกัน
และเสียงของผู้ประท้วงนี้ทำให้รัฐบาลไอซ์แลนด์ตัดสินใจที่จะจัดการกับเรื่องนี้ โดยมีการนำกฎหมายใหม่ขึ้นมาแจ้งว่า ให้ทุกบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 25 คนขึ้นไปจะต้องมีใบรับรองที่แสดงถึงการจ่ายค่าแรงที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง เพื่อจะนำไปสู่การลดช่องว่างระหว่างเพศให้หมดสิ้นในปีค.ศ. 2022
“สิทธิที่เท่าเทียมกันเป็นพื้นฐานสิทธิมนุษยชน” กล่าวโดย Equality and Social Affairs Minister Thorsteinn Viglundsson “เราจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสในการทำงานที่เท่าเทียมกัน”
ต้องยอมรับว่าการทำเช่นนี้อาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้แก่บริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ แต่ภาระนี้จะถูกนำมาตรวจสอบบัญชีและสามารถนำมาใช้ขอรับภาษีคืนได้
“คุณจะต้องกลาที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลง เพื่อต่อต้านความไม่เป็นธรรม” รัฐบาลไอซ์แลนด์กล่าวสรุป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไอซ์แลนด์ได้เริ่มเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้